ยินดีต้อนรับสู่บล็อกของเด็กหญิง อุษณีย์ คะ

วันอังคารที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2558

สถานที่ท่องเที่ยว *เขาขนาบน้ำ


* เขาขนาบน้ำ

เขาขนาบน้ำ


เขาขนาบน้ำ สัญลักษณ์สำคัญของเมืองกระบี่ ลักษณะเป็นภูเขาสองลูกสูงตั้งเด่นขนาบแม่น้ำ อยู่ด้านหน้าตัวเมือง มองเห็นได้เด่นชัด สวยงามและดูมีเรื่องราวนอกจากความสวยงามของเขาสองลูกที่ขนาบกันพอดีแล้วภายในยังมีถ้ำที่มี หินงอก หินย้อยสวยงามและยังเป็นที่ค้นพบโครงกระดูกมนุษย์โบราณจำนวนมาก
เขาขนาบน้ำ อีกหนึ่งสัญลักษณืสำคัญของจังหวัดกระบี่หากใครเที่ยวกระบี่แล้วไม่ได้แวะชมถือว่ามาไม่ถึงอย่างแท้จริงด้วยลักษณะของเขาหินปูนสูงประมาณ 100 เมตร ที่ตั้งเรียงรายขนาบแม่น้ำ โดดเด่น สวยงามใครมาเยือนตัวเมืองจังหวัดกระะบี่ ต่างมองเห็นได้เด่นชัดและไม่ใช่แค่วิวสวยๆเท่านั้นที่เขาขนาบน้ำยังมีอะไรมากกว่านั้นที่นั้นมีประวัติศาสตร์ธรรมชาติสวยๆที่รอให้เรานั่งเรือหัวโทง(เรือโดยสารอีกหนึ่งสัญลักษ์ของจังหวัดกระบี่)ไปสัมผัสกันอย่างใกล้ชิด
ประติมากรรมปูดำ

ประติมากรรมปูดำ ตั้งอยู่ที่ถนนอุตรกิจ ริมเขื่อนท่าเทียบเรือขนาบน้ำ เทศบาลเมืองกระบี่ได้จัดสร้างขึ้นเพื่อบ่งบอกถึงความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่าชายเลนเมืองกระบี่ อีกทั้งยังเพื่อเตือนใจและส้รางจิตสำนักให้ชาวกระบี่ได้หันมาใส่ใจในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติให้คงอยู่ต่อไปอีกนานแสนนาน

เรือหัวโทง อีกหนึ่งสัญลักษณ์สำคัญของจังหวัดกระบี่่ เป็นเรือที่ใช้ในการประกอบอาชีพของชาวประมง และ ยังใช้เพื่อการท่องเที่ยว หากใครอบากทราบประวัติแบบเจาะลึก แนะนำให้ไปที่ ชุมชนบ้านเกาะกลาง จ.กระบี่ แต่หากจะไปชมเขาขนาบน้ำ ต้องนั่งเรือหางยาวที่ ท่าเรือเจ้าฟ้าซึ่งอยู่ตรงตัวเมือง ใช้เวลาล่องเรือ 15 นาที ถึงเขาขนาบน้ำ

หินงอก หินย้อยภายในถ้ำ อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของจังหวัดกระบี่ ถือว่าเป็นสัญลักษณ์สำคัญเลยก็ว่าได้ สวนมากใครไปเที่ยวกระบี่ก็จะนึกถึงน้ำทะเลใส ๆ หาดสวย ๆ มีน้อยคนนักที่จะนึกถึงความเป็นมาของประวัติศาสตร์















จังหวัดกระบี่

ต้นทุ่งฟ้า

สัญลักษณ์ประจำจังหวัด


ที่ตั้ง

เป็นจังหวัดที่ตั้งอยู่ริมฝั่งทะเลอันดามัน อยู่ห่างจากกรุงเทพฯ 814 กิโลเมตร ตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4 (ถนนเพชรเกษม) มีเนื้อที่ 4,708 ตารางกิโลเมตร ประกอบด้วยภูเขา ที่ดอน ที่ราบ หมู่เกาะน้อยใหญ่กว่า 154 เกาะ อุดมไปด้วยป่าชายเลน ตัวเมืองกระบี่มีแม่น้ำยาวประมาณ 5 กิโลเมตร ไหลผ่านลงสู่ทะเลอันดามันที่ตำบลปากน้ำ นอกจากนี้ยังมีคลองปกาสัย คลองกระบี่ใหญ่ และคลองกระบี่น้อย มีต้นกำเนิดจากยอดเขาที่สูงที่สุดในจังหวัดกระบี่ คือ เขาพนมเบญจา

สภาพภูมิประเทศ

สภาพภูมิประเทศโดยทั่วไปของจังหวัดกระบี่ ทางตอนเหนือประกอบด้วยเทือกเขายาวทอดตัวไปในแนวเหนือใต้ สลับกับสภาพพื้นที่แบบลูกคลื่นลอนลาด และลอนชัน มีที่ราบชายฝั่งทะเลด้านตะวันตก บริเวณทางใต้ มีสภาพภูมิอากาศเป็นภูเขากระจัดกระจาย สลับกับพื้นที่แบบลูกคลื่น ส่วนบริเวณทางตอนใต้สุดและตะวันตกเฉียงใต้ มีสภาพพื้นที่เป็นแบบลูกคลื่นลอนลาดจนถึงค่อนข้างเรียบ และมีภูเขาสูงๆต่ำๆ สลับกันไป บริเวณด้านตะวันตกมีลักษณะเป็นชายฝั่งติดกับทะเลอันดามันยาวประมาณ 160 กิโลเมตร. ประกอบด้วยหมู่เกาะน้อยใหญ่ประมาณ 130 เกาะ แต่เป็นเกาะที่มีประชากรอาศัยอยู่ประมาณ 13 เกาะ เกาะที่สำคัญได้แก่ เกาะลันตา เป็นที่ตั้งของอำเภอเกาะลันตาและเกาะพีพีซึ่งอยู่ในเขตอำเภอเมือง เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามติดอันดับของโลก บริเวณตัวเมืองมีแม่น้ำกระบี่ยาวประมาณ 5 กิโลเมตร. ไหลผ่านลงสู่ทะเลอันดามันที่ ตำบลปากน้ำ นอกจากนี้ยังมีคลองปกาสัยคลองกระบี่ใหญ่และคลองกระบี่น้อยซึ่งมี่ต้นกำเนิดมาจากเทือกเขาพนมเบญจาเทือกเขาที่สูงที่สุดในจังหวัดกระบี่

สภาพภูมิอากาศ

จังหวัดกระบี่ มีภูมิอากาศแบบมรสุมเขตร้อน ซึ่งได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ และลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้มีฝนตกชุกตลอดปี และมีเพียง 2 ฤดู คือ - ฤดูร้อน มี 4 เดือน เริ่มตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ไปจนถึงเดือนเมษายน - ฤดูฝน มี 8 เดือน เริ่มตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ไปจนถึงเดือนตุลาคม


อาณาเขต

ทิศเหนือ จดจังหวัดพังงาและจังหวัดสุราษฎร์ธานีทางด้านอำเภอปลายพระยาและอำเภอเขาพนม ทิศใต้ จดจังหวัดตรังและทะเลอันดามันทางด้านอำเภอเกาะลันตา อำเภอเมืองกระบี่ และอำเภอเหนือคลอง ทิศตะวันออก จดจังหวัดนครศรีธรรมราชและจังหวัดตรังทางด้านอำเภอเขาพนม อำเภอคลองท่อม และอำเภอลำทับ ทิศตะวันตก จดจังหวัดพังงาและทะเลอันดามันทางด้านอำเภออ่าวลึกและอำเภอเมืองกระบี่

ประวัติศาสตร์

จากหลักฐานทางโบราณคดี สันนิษฐานได้ว่าบริเวณเมืองกระบี่เคยเป็นแหล่งชุมชนโบราณที่เก่าแก่มากแห่งหนึ่งในประเทศไทย ตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์และต่อเนื่องมาจนถึงสมัยประวัติศาสตร์ นอกจากนี้ยังมีข้อสันนิษฐานเกี่ยวกับชื่อเมืองกระบี่ว่า อาจมาจากความหมายที่แปลว่าดาบ เนื่องจากมีตำนานเล่าสืบต่อกันมาเกี่ยวกับการขุดพบมีดดาบโบราณก่อนที่จะสร้างเมือง


สถานที่ท่องเที่ยว*สุสานหอย

*สุสานหอย





"สุสานหอย 45 ล้านปี" ตั้งอยู่ในเขต อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี บริเวณชายทะเลบ้านแหลมโพธิ์ทางด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือของพื้นที่อุทยานแห่งชาติ มีซากดึกดำบรรพ์ของหอยน้ำจืดชนิดต่างๆ ส่วนใหญ่เป็นหอยขม มีขนาดยาวประมาณ 2 เซนติเมตร ซากหอยเหล่านี้ได้ทับถมกันโดยมีน้ำประสานธาตุปูนจับตัวให้กลายเป็นหินแข็งทับอยู่ชั้นหินลิกไนท์ และหินดินดาน นับเป็นสิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติ และเป็นหลักฐานทางโบราณคดีที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของโลก ช่วงแรกประมาณกันว่าสุสานหอยแห่งนี้เกิดขึ้นเมื่อ 75 ล้านปีมาแล้ว ต่อมาความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและการค้นพบหลักฐานด้านธรณีวิทยามีมากขึ้น จึงกำหนดอายุของสุสานหอยใหม่เหลือประมาณ 40-20 ล้านปี

สถานที่ท่องเที่ยว*สระมรกต

*สระมรกต






"สระมรกต" สระแห่งนี้กำเนิดเกิดขึ้นมาจากธารน้ำอุ่น ในผืนป่าที่ราบต่ำภาคใต้ เป็นน้ำพุร้อนโดยลักษณะของสระน้ำร้อน 3 สระ ได้แก่ สระแก้ว สระมรกต และสระน้ำผุด มีความงดงามมาก น้ำใสเป็นสีเขียวมรกต อุณหภูมิของน้ำอยู่ที่ 30-50 องศาเซลเซียส
ในบริเวณสระมรกตแห่งนี้อุดมไปด้วยป่าร่มรื่น มีพรรณไม้ต่าง ๆ ที่น่าสนใจ เหมาะแก่การเดินดูศึกษาธรรมชาติ โดยเส้นทางการศึกษาธรรมชาติแห่งนี้มีชื่อว่า "เส้นทางศึกษาธรรมชาติทีนา โจลิฟฟ์ (ทุ่งเตียว)" ซึ่งเป็นการตั้งชื่อตามชาวอังกฤษที่เป็นผู้ริเริ่มเส้นทางศึกษาธรรมชาติแห่งนี้ มีระยะทางประมาณ 2.7 กิโลเมตร ตลอดเส้นทางการเดินศึกษาธรราติ เราจะได้เรียนรู้เรื่องราวต่าง ๆ จากป้ายสื่อความหมาย ที่ติดเอาไว้ตามระยะทาง เพื่อให้นักเดินทางศึกษาได้ด้วยตนเอง  
นอกจากนี้ ป่าแห่งนี้ยังมีนกหายากให้เราได้ชม เช่น นกแต้วแร้วทองดำ นกกระเต็นสร้อยคำสีน้ำตาล และนกเงือกดำ   เส้นทางศึกษาจะมีจุดเริ่มต้นที่ระยะก่อนถึงสระมรกต ของเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าเขาประ-บางคราม ประมาณ 800 เมตร ลักษณะเป็นป่าที่ราบต่ำทางภาคใต้ของไทย และป่าเป็นป่าดิบชื้น













วันอังคารที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2558

สถานที่ท่องเที่ยว*หาดไร่เลย์

*หาดไร่เลย์



  จังหวัดกระบี่ เป็นจังหวัดที่ได้รับการกล่าวขานเรื่องความสวยงามของสถานที่ และความซับซ้อนของหน้าผา ซึ่งเป็นผาธรรมชาติ และหากจะเอ่ยถึงแหล่งท่องเที่ยว "ปีนผา" ที่ขึ้นชื่อคงหนีไม่พ้น"ไร่เลย์" หรือ "หาดไร่เลย์" แต่จะสวยงามน่าท่องเที่ยวขนาดไหน อย่ารอช้าตามเราไปชมกันดีกว่า

หาดไร่เลย์ ตั้งอยู่ใน ตำบลอ่าวนาง อำเภอเมือง จังหวัดกระบี่ เป็นหาดทรายสีขาวละเอียดริมโตรกผา ซึ่ง หาดไร่เลย์ เป็นที่รู้จักดีในหมู่นักท่องเที่ยว โดยเฉพาะผู้ที่ชื่นชอบกิจกรรมปีนหน้าผา และ หาดไร่เลย์ แบ่งออกเป็น หาดไร่เลย์ตะวันออก (หาดน้ำเมา) และ หาดไร่เลย์ตะวันตก มีโขดหินคั่นระหว่างหาดทั้งสอง บริเวณหาดมีที่พักสำหรับนักท่องเที่ยวหลายแห่ง เดินทางเข้าถึงได้โดยทางเรือจากอ่าวนางใช้เวลา 10 นาที
 หาดไร่เลย์ หลายคนอาจเข้าใจว่าเป็น "เกาะ" แต่จริง ๆ แล้ว หาดไร่เลย์ ตั้งอยู่บนผืนแผ่นดิน แต่ที่ต้องเดินทางด้วยเรือ เพราะ หาดไร่เลย์ ถูกภูเขาล้อมรอบทุกด้าน ทำให้ผู้คนที่จะเดินทางมาเที่ยวหาดไร่เลย์ ต้องนั่งเรือเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ซึ่งนี่อาจเป็นอีกผลหนึ่งทำให้ชาวบ้านที่ หาดไร่เลย์ ยังไม่ถูกเทคโนโลยีหรือความเจริญกลืนกิน รวมถึงวิถีชีวิตของหมู่บ้านชาวประมงเล็ก ๆ ที่ปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัย โดยที่ยังรักษาขนบธรรมเนียมประเพณี และการใช้ชีวิตได้อย่างลงตัว



อย่างไรก็ตาม นอกจากน้ำสวย ทะเลใสแล้ว หาดไร่เลย์ ยังได้ชื่อว่ามี "พระอาทิตย์ตก" ที่สวยงามบาดตา เพราะเมื่อพระอาทิตย์ตก แสงแดดจะสะท้อนเงาจากหินลงไปที่อ่าว ภาพต้นมะพร้าวเรียงกันเป็นทิวแถว เรือประมงจอดเรียงรายที่ชายฝั่ง ภาพดังกล่าวเป็นเหมือนแดนสวรรค์อันสุขสงบ

          นอกจากนี้ หาดไร่เลย์ ยังมีจุดเด่นที่กิจกรรมการปีนผา เพราะที่ หาดไร่เลย์ มีผาหินปูนมากมาย ซึ่งการปีนผาที่ ไร่เลย์ สามารถทำได้ทั้งปี โดยในช่วงเดือนเมษายนของทุกปี จะมีการจัดกิจกรรม "ปีนผา" และบริเวณที่นิยมปีนผาคือบริเวณ ไร่เลย์ตะวันออก อ่าวต้นไทร และ เขาแถวถ้ำพระนางใน







สถานที่ท่องเที่ยว*ทะเลแหวก

*ทะเลแหวก





“ทะเลแหวก” แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติของจ.กระบี่ ที่ถูกขนานนามให้เป็นUnseen Thailand ที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลกอันเนื่องมาจากความมหัศจรรย์ของธรรมชาติใน ยามน้ำลดที่พัดพาเอาเม็ดทรายมาบรรจบกันไว้ณจุดนี้จนทำให้เกิดปรากฎการณ์ที่ เรียกว่า“ทะเลแหวก” ขึ้นและเผยให้เห็นส่วนของสันทรายขาวละเอียดทอดตัวเป็นแนวยาวเชื่อมต่อถึงกัน ได้ระหว่างเกาะ 3 เกาะคือ เกาะไก่ เกาะหม้อ และ เกาะทับ และแนวสันทรายนี้จะค่อยๆจมหายไปใต้ผืนน้ำเมื่อเข้าสู่ช่วงเวลาน้ำขึ้นของแต่ละวัน







สถานที่ท่องเที่ยว*วัดถ้ำเสือ

*วัดถ้ำเสือ



ในปี พ.ศ. 2518 หลวงพ่อจำเนียรมีความประสงค์จะหาสถานที่ปฏิบัติธรรมใหม่ ก็เกิดนิมิตในมโนภาพว่าเป็นสถานที่มีภูเขาล้อมรอบ และถ้ำชื่อ “ถ้ำเสือ” ตลอดถึงถ้ำต่างๆ หลายถ้ำ และอยู่ในเขตจังหวัดกระบี่ด้วย ทันทีที่เกิดนิมิตเห็นก็เกิดความรู้สึกนึกรักสถานที่นั้นขึ้นมาจับใจ เหมือนรู้สึกคุ้นเคยกับสถานที่นี้มาก่อน หลวงพ่อได้ให้พระอาจารย์หีด ไปเสาะแสวงหาสถานที่จะตั้งสำนัก จนในที่สุดพระอาจารย์หีดได้พบสถานที่หลายๆแห่งรวมถึงถ้ำเสือด้วย
หลวงพ่อได้มีโอกาสไปดูสถานที่ถ้ำตามที่พระอาจารย์หีดบอก ก็ตรงกับนิมิตที่หลวงพ่อเห็นจริงๆ หลวพ่อจำเนียร ได้นำคณะพระภิกษุ สามเณร 53 แม่ชี 56ท่าน จากวัดสุคนธาวาส มาอยู่ ณ สถานที่แห่งนี้อันมีนามว่าถ้ำเสือหรือในอดีตวัดมีชื่อว่า“สำนักสงฆ์หน้าชิง”ตามชื่อหมู่บ้านเมื่อวันที่ 25  มีนา คมพ.ศ. 2518  
และได้เปลี่ยนเป็น “วัดถ้ำเสือ” เมื่อวันที่ 2  สิงหาคม  พ.ศ. 2533 มาบุกเบิกเปิดเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมวิปัสสนากรรมฐานจนถึงปัจจุบัน  ที่ได้ชื่อว่า วัดถ้ำเสือนั้น จากการสอบถามชาวบ้านได้ความว่า ในอดีตเคยมีเสือโคร่งจำนวนมากอาศัยอยู่บริเวณของถ้ำที่ตั้งอยู่หน้าเขาแก้ว ภายในถ้ำยังปรากฏหินธรรมชาติเป็นรูปแบบอุ้งเท้าเสืออีกด้วย
วัดแห่งนี้เป็นที่รู้จักกันดีในจังหวัดกระบี่และจังหวัดใกล้เคียง รวมทั้งชาวต่างประเทศ ทั้งความโดดเด่นของวัดและชื่อเสียงของ "หลวงพ่อจำเนียร" ประธานสงฆ์วัดถ้ำเสือที่มีผู้เลื่อมใสศรัทธามาช้านาน สภาพโดยทั่วไปของ วัดถ้ำเสือมีลักษณะ เป็นสวนป่า เป็นโพรงถ้ำ มีเพิงผาและแหล่งถ้ำธรรมชาติ เช่น ถ้ำคนธรรพ์ ถ้ำลอด ถ้ำช้างแก้ว ถ้ำลูกธนู ถ้ำงู ถ้ำเต่า ถ้ำมือเสือ สิ่งสำคัญใน"วัดถ้ำเสือ"นั้นที่ดูเหมือนจะโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์มากที่สุดและ เป็นที่นิยมชื่นชอบของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ








สถานที่ท่องเที่ยว *เกาะพีพี

*เกาะพีพี

"หมู่เกาะพีพี" เป็นหมู่เกาะกลางทะเล อยู่ห่างจากอำเภอเมือง 42 กิโลเมตร เดิมชาวทะเลเรียกหมู่เกาะนี้ว่า "ปูเลาปิอาปิ" คำว่า "ปูเลา" แปลว่า เกาะ คำว่า "ปิอาปิ" แปลว่า ต้นไม้ทะเลชนิดหนึ่งจำพวกแสม และโกงกาง ต่อมาเรียกว่า "ต้นปีปี" ซึ่งภายหลังกลายเสียงเป็น "พีพี" ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นอาณาจักรแห่งบุปผาใต้สมุทร นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวหมู่เกาะนี้ ส่วนใหญ่มาเพื่อดำน้ำดูปะการัง ดอกไม้ทะเล และปลาหลากสีที่มีสีสันสวยงาม นอกจากนี้ ยังมีเกาะต่าง ๆ ที่อยู่ระหว่างเส้นทางเดินเรือ กระบี่
"เกาะพีพีดอน" มีพื้นที่ประมาณ 28 ตารางกิโลเมตร จุดเด่นของเกาะคือ เวิ้งอ่าวคู่ที่มีความสวยงามติดอันดับโลกของ อ่าวต้นไทร และ อ่าวโละดาลัม ทั้งนี้ อ่าวต้นไทรเป็นที่ตั้งของท่าเรือเกาะพีพี และมีสถานที่พักและร้านค้าจำนวนมาก จากอ่าวต้นไทรสามารถเดินขึ้นเขาไปยังจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นเวิ้งอ่าวคู่ ได้ อย่างไรก็ตาม เกาะพีพีดอน ยังมีหาดทรายและอ่าวที่สวยงามกระจายอยู่รอบเกาะ บางแห่งมีที่พักบริการ เช่น หาดแหลมหิน หาดยาว อ่าวโละบาเกา   
ทางเหนือของเกาะคือ แหลมตง เป็นที่ตั้งของหมู่บ้านชาวเลประมาณ 15 - 20 ครอบครัว ส่วนใหญ่อพยพมาจากเกาะลิเป๊ะ ในอุทยานแห่งชาติตะรุเตา ที่จังหวัดสตูล บริเวณแหลมตงมีธรรมชาติใต้ทะเลที่สวยงาม และบนหาดยังมีที่พักไว้ให้บริการ แก่นักท่องเที่ยวอีกด้วย
"เกาะพีพีเล" มีพื้นที่เพียง 6.6 ตารางกิโลเมตร เป็นเกาะที่เต็มไปด้วยภูเขาหินปูน มีหน้าผาสูงชันตั้งฉากกับผิวทะเลโดยรอบเกือบทั้งเกาะ มีพื้นน้ำลึกเฉลี่ยประมาณ 20 เมตร มีบริเวณน้ำลึกที่สุดประมาณ 34 เมตรอยู่ทางตอนใต้ของเกาะ เกาะแห่งนี้มีเวิ้งอ่าวสวยงาม อาทิ อ่าวปิเละ อ่าวมาหยา อ่าวโละซามะ 



















วันอังคารที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2558

สถานที่ท่องเที่ยว *เกาะไก่

*เกาะไก่

เกาะไก่

เกาะไก่  อยู่ในทะเลกระบี่หน้าอ่าวนาง ห่างจากฝั่งประมาณ 8 กิโลเมตร อยู่ใกล้ๆ กับเกาะปอดะห่างไปทางทิศใต้เล็กน้อย เกาะไก่เป็นหนึ่งในสามเกาะที่ทำให้เกิดสันทรายที่เราเรียกว่า "ทะเลแหวก " สันหทรายด้านทิศตะวันตกที่มีสันฐานมาจากเกาะใหญ่นั่นคือเกาะไก่
ที่เรียกว่าเกาะไกก็เพราะว่าทางด้านปลายสุดของเกาะมีหินแหลมๆ เมื่อมองขึ้นไปแล้วคล้ายคอไก่ บ้างก็ว่าคล้ายๆ ไก่งวง


















วันอังคารที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2558

ประวัติ

ประวัติ ความเป็นมาของจังหวัด กระบี่

กระบี่  เป็นจังหวัดหนึ่งทางภาคใต้ ตั้งอยู่ริมฝั่งทะเลอันดามัน จากหลักฐานทางโบราณคดีสันนิษฐานได้ว่า บริเวณเมืองกระบี่เคยเป็นแหล่งชุมชนโบราณก่อนประวัติศาสตร์ และต่อเนื่องมาจนถึงสมัยประวัติศาสตร์ กล่าวกันว่าดินแดนนี้แต่เดิมคือ เมืองบันไทยสมอ 1 ใน 12 เมืองนักษัตร ที่ใช้ตราลิงเป็นตราประจำเมืองขึ้นกับอาณาจักรนครศรีธรรมราช
จังหวัดกระบี่ ตั้งขั้นสมัยรัชกาลที่ 5 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ในอดีตเป็นเพียงแขวงหนึ่งอยู่ในอำนาจปกครองและบังคับบัญชาของเมืองนครศรีธรรมราช เรียกว่า “แขวงเมืองปกาสัย” พระยาผู้ครองเมืองนครศรีธรรมราช ให้ปลัดเมืองฯ มาตั้งค่ายทำเพนียดจับช้างในท้องถิ่นที่ตำบลปกาสัย และได้มีราษฎรจากเมืองนครศรีธรรมราช อพยพมาตั้งหลักแหล่งทำมาหากินเพิ่มมากขึ้น พระปลัดเมืองฯ ได้ยกตำบลปกาสัยขั้นเป็น “แขวงเมืองปกาสัย” ขึ้นต่อเมืองนครศรีธรรมราช
ประมาณปี พ.ศ. 2415 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ยกฐานะขึ้นเป็นเมืองปกาสัย และพระราชทานนามว่า “เมืองกระบี่” เมื่อได้ประกาศตั้งขึ้นเป็นเมืองแล้ว โปรดเกล้าฯ ให้ตั้งที่ทำการอยู่ที่ตำบลกระบี่ใหญ่ (บ้านตลาดเก่า) ในท้องที่อำเภอเมืองกระบี่ปัจจุบัน มีหลวงเทพเสนาเป็นเจ้าเมืองกระบี่คนแรก ต่อมาในปี พ.ศ. 2418 ได้ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้แยกเมืองกระบี่ออกจากการปกครองของเมืองนครศรีธรรมราช เป็นเมืองจัตวาขึ้นตรงต่อกรุงเทพฯ และในปี พ.ศ. 2443 สมัยพระยารัษฏานุประดิษฐ์ (คอซิมบี้ ณ ระนอง) เป็นสมุหเทศาภิบาลมณฑลภูเก็ต ได้พิจารณาเห็นว่า ศาลากลางจังหวัดที่บ้านตลาดเก่านั้น ไม่สะดวกต่อการคมนาคม เพราะสมัยนั้นต้องอาศัยเรือเป็นพาหนะ จึงย้ายมาที่ตั้งเมืองไปอยู่ตำบลปากน้ำ ซึ่งอยู่ใกล้ปากอ่าวเป็นร่องน้ำลึก เรือใหญ่สามารถเข้าเทียบท่าได้สะดวกทำให้เป็นที่ตั้งศาลากลางจังหวัดจนถึงปัจจุบันนี้


ความหมายของคำว่า “กระบี่”

มีตำนานเล่าสืบต่อกันมาว่า ชาวบ้านได้ขุดพบมีดดาบโบราณเล่มหนึ่ง นำมามอบให้กับเจ้าเมืองกระบี่ และต่อมาไม่นานก็ขุดพบมีดดาบโบราณเล่มหนึ่ง รูปร่างคล้ายกับมีดดาบโบราณเล่มใหญ่ จึงนำมามอบให้กับเจ้าเมืองกระบี่เช่นกัน เจ้าเมืองกระบี่เห็นว่าเป็นดาบโบราณสมควรเก็บไว้เป็นดาบคู่บ้านคู่เมืองเพื่อเป็นสิริมงคล แต่ขณะนั้นยังสร้างเมืองไม่เสร็จ จึงได้นำดาบไปเก็บไว้ในถ้ำเขาขนาบน้ำหน้าเมืองโดยวางดาบหรือกระบี่ไขว้กัน ซึ่งลักษณะการวางดาบหรือกระบี่ไขว้ เป็นสัญลักษณ์ของตราประจำจังหวัด คือรูปดาบไขว้ด้านหลังมีภูเขาและทะเล โดยบ้านที่ขุดพบดาบใหญ่ได้ตั้งชื่อว่า “บ้านกระบี่ใหญ่” บ้านที่ขุดพบดาบเล็กได้ตั้งชื่อว่า “บ้านกระบี่น้อย”
แต่มีอีกตำนานหนึ่ง สันนิษฐานว่า คำว่า “กระบี่” อาจเรียกชื่อพันธุ์ไม้ชนิดหนึ่งที่มีมากในท้องถิ่น คือต้น “หลุมพี” จึงเรียกชื่อท้องถิ่นว่า “บ้านหลุมพี” ต่อมามีชาวมลายูและชาวจีนที่เข้ามาค้าขายไดเรียกเพี้ยนเป็น “บ้าน-กะ-ลู-บี” หรือ “คอโลบี” นานๆ เข้าก็ได้ปรับเป็นสำเนียงไทยว่า “กระบี่”